แคนาดา เตรียมรับ วัคซีนโมเดอร์นา ก่อนสิ้นปีนี้ รออนุมัติ

แคนาดา เตรียมรับ วัคซีนโมเดอร์นา ก่อนสิ้นปีนี้ รออนุมัติ

ผู้นำ แคนาดา ประกาศว่า ประเทศ แคนาดา เตรียมรับ วัคซีนโมเดอร์นา อีกหนึ่งวัคซีนต้านโควิด-19 ประสิทธิภาพสูงก่อนสิ้นปีนี้ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม สำนักข่าว ABC รายงานว่า นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีประเทศแคนาดา เปิดเผยว่าขณะนี้ประเทศแคนาดาเตรียมรับวัคซีนโมเดอร์นา วัคซีนต้านโควิด-19 มากกว่า 168,000 โดส ก่อนสิ้นปีนี้

โดยขณะนี้ทางการแคนาดากำลังรอให้มีการใช้อนุมัติใช้วัคซีนดังกล่าว 

ซึ่งพวกเขาเชื่อว่าการอนุมัติจะเกิดขึ้นในเร็วๆนี้ และการแจกจ่ายจะเริ่มขึ้นทันทีภายใน 48 ชั่วโมง หลังการอนุมัติ ย้อนกลับไปเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ชาวแคนาดา ได้เริ่มการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ อีกหนึ่งวัคซีนต้านโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งในสัปดาห์หน้าประเทศแคนาดาจะได้รับวัคซีนไฟเซอร์อีกกว่า 2 แสนโดสในสัปดาห์หน้า

ด้านคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐฯ (FDA) ได้เผยแพร่  เอกสารจำนวน 54 หน้า พร้อมระบุว่า “ไม่พบความน่ากังวลถึงความปลอดภัย” ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าทางการสหรัฐฯน่าจะอนุมัติใช้วัคซีนชนิดนี้ในอีกไม่กี่วันเช่นเดียวกัน

ประเทศแคนาดามียอดผู้ป่วยสะสมมากกว่า 475,000 ราย และมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสแล้วอย่างน้อย 13,000 ศพ

สาวอินเดีย เหมือนตกนรกทั้งเป็น เวลาสามีแพ้พนัน ก็จะพาเธอไปให้เพื่อนรุมโทรม หากขัดขืน ก็จะถูกทุบตีและสาดน้ำกรดใส่ เหตุการณ์สุดสลดนี้ เกิดขึ้นในรัฐพิหาร ประเทศอินเดีย เมื่อ สาวอินเดีย วัย 30 ปี ถูกสามีวัย 36 ปี บังคับขืนใจให้ไปเป็นทาสกามของเพื่อน ๆ ยามที่เขาแพ้พนัน หากเธอปฏิเสธหรือขัดขืน ก็จะถูกทำร้ายร่างกายและสาดน้ำกรดใส่

โดยเธอต้องพบกับเหตุการณ์ลักษณะนี้ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค., 2 พ.ย. และ 12 ธ.ค. ที่ผ่านมา จนเธอทนไม่ไหวและหนีกลับไปหาพ่อแม่ในวันที่ 13 ธ.ค.

หลังจากนั้น เธอก็เข้าแจ้งความกับตำรวจ และเปิดเผยเพิ่มเติมว่า ที่ผ่านมา มักจะตกเป็นเหยื่อความรุนแรงของสามีเสมอ เพราะเธอไม่สามารถมีลูกได้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัวสามีและพรรคพวกได้แล้ว พร้อมแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย, ข่มขืนกระทำชำเรา, ใช้ความรุนแรงในครอบครัว และกักขังหน่วงเหนี่ยว ก่อนส่งเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป

ฮังการี ผ่านร่าง เปลี่ยนนิยามครอบครัว ห้ามคู่สมรสเพศเดียวกัน รับบุตรบุญธรรม

ทางการ ฮังการี ได้ทำการผ่านร่าง เปลี่ยนนิยามครอบครัว ส่งผลให้ คู่สมรสเพศเดียวกัน ไม่สามารถรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมได้ เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า สภาฮังการี ได้ทำการอนุมัติกฎหมาย เปลี่ยนนิยามของคำว่า “ครอบครัว”

ร่างฉบับนี้ได้นิยามคำว่า ครอบครัว ว่า “รากฐานของครอบครัว คือ การแต่งงาน และ ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองและบุตร มารดาเป็นสตรี และ บิดาเป็นบุรุษ” ซึ่งจากการแก้นิยามในครั้งนี้ จะส่งผลให้ คู่สมรสเพศเดียวกัน จะไม่สามารถรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมได้

ซึ่งรัฐบาลฮังการีระบุว่า กฎหมายฉบับนี้จะช่วยสร้างความปลอดภัยให้กับครอบครัวชาวฮังกาเรียน และความปลอดภัยสำหรับเด็กๆ โดยการตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ผลสำรวจพบว่า กลุ่มเพศทางเลือก 6 ถึง 10 คน พยายามเลี่ยงที่จะจับมือในที่สาธารณะ เนื่องจากกลัวที่จะถูกคุกคาม และ 43% เคยถูกคุกคามในช่วงปีที่ผ่านมา

ด้านองค์การแอมเนสตี้ ได้ออกมาแสดงความผิดหวังต่อการผ่านร่างฉบับนี้พร้อมระบุว่า “เป็นวันที่มืดมนที่สุดสำหรับกลุ่มเพศทางเลือกในฮังการี และ เป็นวันที่มืดมนสำหรับสิทธิมนุษยชน” ย้อนกลับไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม ทางการฮังการีได้สั่งห้ามไม่ให้ กลุ่มเพศทางเลือก เปลี่ยนเพศตนเองบนเอกสารที่ใช้ระบุตัวตน

นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ออกมาประกาศ ว่าเขาจะ ไม่เซ็น ร่างเงินเยียวยาโควิด-19 มูลค่า 26 ล้านล้านบาท พร้อมชี้ว่ามี รายการที่ไม่เกี่ยวกับ โควิด-19 จำนวนมาก

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธินดีสหรัฐฯ ได้ออกมาโพสต์วิดีโอลงบนทวิตเตอร์ ระบุว่าเขาจะไม่เซ็นร่างเยียวยาโควิด-19 ฉบับใหม่ที่มีมูลค่า 26 ล้านล้านบาท เนื่องจากในร่างฉบับดังกล่าวมีค่าใช้จ่ายไม่ข้องกับการเยียวยาโควิด-19

โดยในวิดีโอดังกล่าว นายทรัมป์ ได้ยกตัวอย่างว่า เงินจำนวนหนึ่งจะถูกนำไปช่วยเหลือประเทศอื่น เช่น กัมพูชา, อียิปต์, ปากีสถาน ส่วนอีกเงินจำนวนหนึ่งจะถูกใช้กับสถานที่ต่างๆที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นอกจากนี้เขายังได้กล่าวโทษว่า เป็นความผิดประเทศจีน ที่ทำให้ประชาชนสหรัฐฯลำบาก

ซึ่งผู้นำสหรัฐฯออกมาเรียกร้องให้เงินจำนวนดังกล่าวถูกมอบให้กับประชาชนที่กำลังประสบปัญหาจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมเรียกร้องให้สภาคอนเกรสเพิ่มจำนวนเงินที่มอบให้ประชาชนจาก 18,000 บาท เป็น 60,000 บาท หรือ 120,000 ต่อหนึ่งคู่สามีภรรยา

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป